วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จองยักยอง 정약용 ปราชญ์นักคิดผู้มีแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์ ขุนนางคู่พระทัยพระเจ้าจองโจ

เมื่อเรากล่าวถึงพระเจ้าจองโจ หรือ องค์ชายลีซาน แห่งโชซอนขุนนางที่รับใช้ถวายงานให้พระองค์ที่เรารู้จักอย่างมากนั้นคือ ฮงกุกยอง แต่ มีอีกหนึ่งท่านที่ถ้าใครชื่นชอบการดูละครเกาลี เรื่อง ลีซาน หรือ ซอนคยุนกวาน บัณฑิตหน้าใสหัวใจว้าวุ่น ก็จะต้องเคยได้ยินชื่ออาจารย์จองยัคยอง หรือ ท่านจองยัคยอง กันมาบ้าง



 บุุคลท่านนี้ถือว่ามีตัวตนจริงในโชซอน รับราชการในสมัยพระเจ้าจองโจ เขาคือนักวิชาผู้มีความคิดแนวสมัยใหม่ แหวกแนวป็นทั้งนักคิด นักประดิษฐ์ และ ผู้มีความรู้ทางด้านการก่อสร้างในสมัยพระเจ้าจองโจ กษัตริย์ลำดับที่ 22 แห่งโชซอน ซึ่งเป็นสมัยแห่งการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ของโชซอนเลยที่เดียวก่อนหน้านั้น โชซอน ได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งฤาษี เนื่องจากการปิดประเทศและไม่ต้อนรับต่างชาติใด ๆ ยกเว้นจีน การกระจายศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคที่เข้ามาในสมัยพระเจ้าจองโจได้นำความรู้และ เทคโนโลยีแบบตะวันตกเข้ามาด้วยโดยผ่านทางจีน และนี้คือ จุดที่นำปัญหามาสู่ จองยัคยองในช่วงหลังการสวรรคตของพระเจ้าจองโจ
จองยัคยอง เป็น นักวิชาการที่สำคัญในสมัยพระเจ้าจองโจ ใครจะรู้ว่าเขาคือ บัณฑิตที่ไม่เคยสอบผ่านจองหงวนเลยเพราะความคิดแปลกประหลาดของเขา ถ้าใครได้ไปซูวอน ป้อมฮวาซอน คุณจะดูรู้สิ่งที่สำคัญของเทคโนโลยีการสร้างป้อมฮวาซองของจองยัคยองเขา มีส่วนสำตัญในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสร้างป้อมแห่งนี้ภายหลังที่ได้รับมอบมายจากพระเจ้าจองโจ แต่น่าเศร้าที่เขากลับไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าซุนโจกษัตรย์ผู้ครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาคือพระเจ้าจองโจ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่อยู่ในเงาของพระอัยยิกาคิม อดีตพระมเหสีของพระเจ้ายองโจเนื่องจากพระองค์ครองราชย์ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากการสวรรคตอย่างกระทันหันของพระเจ้าจองโจในปี พ.ศ.2343  และ พระราชินีซุนวอน หญิงผู้อำนาจเหนือพระสวามีคือพระเจ้าซุนโจ ผู้ที่ทำให้ตระกูลคิมแห่งอันดงยิ่งใหญ่ในราชสำนักหลังการสวรรคตของพระอัยยิกาคิม ชีวิตของจองยัคยอนต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองฮันยานเป็นเวลานานแสนนาน ต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวจากเหตุการณ์ปราบปรามสังหารหมูชาวคริสต์ปีชุนยู เนื่องจากคนในครอบครัวของเขาถือว่าเป็นบุคคลสำคัญสำหรับการก่อตั้งชุมชนชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนั้นคือ พี่ชายคนโตของเขา  และ   จองยัตยองโดยหางเลขด้วยในกรณีนี้ เนืองจากเชื่อว่าเขาอาจจะรู้เห็นเรื่องการเผยแพร่ศาสนาที่ในเวลานั้นราชสำนักมองว่าคือ แนวคิดที่อันตรายแห่งราชสำนัก


เรามาทำความรู้จักกับ ท่านจองยัคยอง กันดีกว่านะคะ ชื่อของท่านคือ จองยัคยอง (정약용) พ.ศ.2305-2379 เป็นนักปราชญ์ ชิลฮัก และ ขุนนางฝ่ายโซรน (สายก้าวหน้า) ที่ต่อสู้กับขุนนางฝ่ายโนรน (สายอนุรักษ์นิยม) ในสมัยพระเจ้าจองโจ เพราะเขามีความคิดที่แปลกและแหวกทำให้เขาไม่เคยสอบจองหงวนผ่าน จนในสมัยพระเจ้าจองโ เขากลับสามารถที่จะสอบเข้าไปด้วยคะแนนที่สูงที่สุดและกลายเป็นขุนนางที่พระเจ้าจองโจทรงโปรดปรานเป็นอย่างมาก จองยัคยองนั้นเป็นนักคิดนักเขียน มีนามปากกาว่า ดาซัน ถ้าคุณไปเกาหลี ชื่อดาซันจะเป็นชื่อที่หลายคนรู้จักเนืองจากปรากฏทั้งงานเขียน บ้านพักของท่าน เขาเป็นบุุคคลที่มีงานเขียนที่ทรงอิทธิผลอย่างมากในด้านหลักปรัชญา วิทยาศาสตร์ และ ทกษฎีการเมืองการปกครอง เมื่อเข้ารับราชการได้รับตำแหน่งที่มีความสำคัญๆ เพื่อช่วยพัฒนาบ้านเมืองตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าจองโจ มีประเด็นที่น่าสนใจเนื่อง กวีคาทอลิกชาวเกาหลีได้มีการอ้างว่า จองยัคยอง ได้ทำพิธีล้างบาปด้วยชื่อ จอหน์ แบ็พทิสต์ John Baptist แต่คำกล่าวนี้ไม่มีหลักฐานใดๆ
ประวัติชีวิตและครอบครัว
บิดาของจองยัคยอง มีนามว่า จองแจวอน พ.ศ.2273–2335 พี่ชายคนโตของเขา คือ จองยัคฮยอน พ.ศ.2294–2364  อันเกิดจากภรรยาคนแรกของเขา ขณะที่จองยัคจุง, จองยัคจอน และ จองยัคยอง เป็นบุตรชายที่เกิดจากภรรยาคนที่สอง นอกจากนี้บิดาของจองยัคยองยังมีบุตรสาวอีกสี่คนอันเกิดจากการแต่งงานครั้งที่สอง และ ครั้งที่สาม ในวัยเด็ก จองยัคยองเป็นเด็กที่มีความเฉลียวฉลาดอันเชื่อว่าส่งต่อทอดมาจากบรรพบุรุษของเขานักวิชากาารยิ่งใหญ่ จองซิฮัน  ครอบครัวของจองยัคยองใช้ จองโดเจ เป็นสื่อการสอนของคนรุ่นใหม่ของครอบครัว พวกเขาส่งสิ่งนี้ให้แกบิดาของจองยักยองสิ่งนี้ก็ส่งผ่านมายังเขา
ในส่วนมากดาของ จองยัคยอง นั้นนางมาจากครอบครัวขุนนางฝ่ายใต้ที่มีชื่อเสียงทางด้านกวีโกซัน นามยุนซันโด ถือได้ว่าเขาเกิดมาในชนชั้นที่ดีของเกาหลีนั้นคือ ยังบัน
ในช่วงแรกๆ ของชีวิต เมื่ออายุไดั 6 ปี พ่อของจองยัคยองรู้สึกประทับใจในความเป็นคนช่างสังเกตของเขา เมื่ออายุ 9 ปี เขาก็ได้แต่กวีบทเล็ก ๆ ในปี พ.ศ.2319  จองยัคยองแต่งงานกับ ฮงอวาโบ ตะกูลฮงแห่งพุงซาน บุตรีของท่านราชเลขา ในปีนั้นเขาได้ย้ายมาที่ฮันยางสถานที่บิดาของเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจัดเก็บภาษีหลังจากการครองราชย์ของพระเจ้าจองโจ เมื่ออายุ 15 ปี จองยัคยองได้รับการแนะนำให้รู้จักงานเขียนของ อีอิก นักวิชาการหัวก้าวหน้าฝ่ายโซรน ในสมัยพระเจ้าซุกจงจนถึงสมัยพระเจ้ายองโจ  ทำให้เขารู้สึกประทับใจอย่างมาก จึงตัดสินใจในการอุทิศชีวิตของเขา เพิ่อศีกษางานคล้ายกัน ในปี พ.ศ.2326 เขาสอบผ่านและได้รับอนุญาตเข้าสู่มหาวิทยาลัยซองคยุนกวาน (สถาบันขงจื้อนานาชาติ)
จุดสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่่ยนแปลงอย่างมากและกระทบถึงชีวิตของเขาอย่างมากคือ การที่เขาได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับศริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิคันเนื่องมาจากความสนใจวัฒนธรรมตะวันตกมีการกล่าวอ้างหลากหลายว่าเขาหันไปนับถือศาสนาใหม่นี้เหมือนพี่น้องของเขาแต่เป็นแค่ข้อกล่าวอ้างภายหลังจากที่เขาไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าซุนโจเนืองมาจากความคิดก้าวหน้าและ เรื่องศานาใหม่ที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมมองว่าเป็นอันตรายต่อราชสำนักจนเกิดการปราบปรามขึ้นอย่างรุนแรง คือการสังหารหมู่ชาวคริสต์ปีชินยู ซึ่งผู้เขียนจะขอกล่าวในภายหลังช่วงเวลาแห่งการเนเทศที่แสนยาวนานของ จองยัคยอง
ดั่งที่ทราบว่า จองยัคยองสอบผ่านจองโหงนในสมัยพระเจ้าจองโจ กล่าวว่าพระเจ้าจองโจมีความประทับใจในการตอบคำถามของจองยัคยองเป็นอย่างมาก อันเป็นคำถามที่เเกี่ยวข้องกับความเที่ยงธรรมของจองยัคยอง  มันคือจุดเริ่มต้นของความใกล้ชิดระหว่าง จองยัคยองกับพระเจ้าจองโจ หลังจากการเข้ารับตำแหน่งของ จองยัคยอง ได้คะแนนจากติดอันดับสูงสุดในแดกวา  และได้รับตำแหน่งสำนักพระราชกฤษฎีกาพร้อมกับสมาชิกคนอื่นอีก 5 คนของทางฝ่ายใต้อันเป็นสมาชิกฝ่านตรงข้ามกับโนรน ในสมัยชองพระเจ้าจองโจเป็นยุครุ่งเรื่องของฝ่ายโซรนแต่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของโนรน ในช่วงเวลาของพระเจ้าจองโจอิทธิพลของตะวันตกเข้ามายังโชซอนผ่านจีนรวมทั้งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกจนกลายเป็นโศกนาฎกรรมภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าจองโจไปแล้ว การเมืองของโชซอนไม่มีอะไรแน่นอนขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นฝ่ายไหนรุ่งเรืองมีอำนาจเนื่องจากได้รับการสนัยสนุนจากกษัตริย์
ผลงานของ จองยัคยอง ปรากฏมากมาย ทั้งขณะที่เขาทำงานถวายพระเจ้าจองโจ หรือ แม้แต่ฝ่ายหลังจากการถูกเนรเทศในสมัยของพระเจ้าซุนโจ ความเชียวชาญทางด้านวิศวกรรมโยธาของเขาก็เป็นที่ประจักษ์ทั้งการสร้างสะพาน เขาได้ใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์มาใช้ในการสร้างสิ่งประดิษย์เพื่อสนองงานที่ได้รับจากพระเจ้าจองโจ สะพานเรือคือตัวอย่างที่ได้ทำการออกแบบโดยให้เรือหลายสิบลำจอดเรียงติดกันในแนวขวาง ยาวประมาณ 340 เมตร กว้าง 7.2 เมตร ในปี  พ.ศ. 2335  จองยัคยองมีความสนใจงานด้านวิศวกรรมโยธา เขาได้สร้างสะพานลอยน้ำที่เขาออกแบบตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าจองโจ และ ยังได้ทำการควบคุมการก่อสร้างป้อมฮวาซองที่ล้อมรอบพระราชวัง  จองยัคยอง สร้างสรรคเทคนิค และโครงการใหม่ ๆ โดยอาศัยแหล่งข้อมูลความรู้จากชาติตะวันตกผ่านจีน เขามีบทบาทและได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยกับพระเจ้าจองโจจนได้เลื่อนตำแหน่งเพื่อเดินทางไปเมืองคยองกิในการสอบสวนรายงานการทุจริต
และ การสร้างป้อมฮวาซองกล่าวกันว่า เขาได้รับเลือกให้ออกแบบป้อมฮวาซองในซูวอน โดยเขาได้สร้างปั่นจั่นเพื่อใช้ในการก่อสร้างป้อมฮวาซองที่มีความยาวโดยรอบ 5.741 กิโลเมตร สูง 4-6 เมตร ปั้นจั่นนี้ใช้ยกหินที่มีหนักขึ้นด้วยแรงที่น้อย โดยการม้วนเชือกด้วยเครื่องปั่นด้ายที่มีรอกเดี๋ยวตายตัว 4 ตัวที่อยู่ด้านบน รอกเดียวเคลื่อนที่ 4 ตัวที่ด้านล่าง และ รอกขนาดใหญ่เชื่อมอยู่ทางด้านซ้ายขวาการนำเครื่องทอที่มีประสิทธิภาพมาใช้งานได้อย่างเหมาะสมและยังช่วยลดการก่อสร้างลงได้จากที่คิดว่าจะนานเป็น 10 ปี แต่ใช้เวลา 2 ปี 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ
บทบาทที่ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อจองยัคยอง ในปี  พ.ศ.2338 ตือ การสนับสนุนพระเจ้าจองโจในการถวายพระอิศริยศแด่องค์รัชทายาทซาโด เรื่องนี้เกิดความขัดแย้งมากมายในฝ่ายโนรน การสวรรคตขององค์รัชทายาทซาโด ทำให้ขุนางฝ่ายโนรนรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่พระเจ้าจองโจพยามยามจะทำอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับพระบิดาของพระองค์ เพราะฝ่ายโนรนถือว่ามีส่วนเช่นการในการสวรรคตขององค์รัชทายาทซาโด เนืองจากสมัยพระเจ้ายองโจพวกเขาล้วนมีอำนาจและเกิดการขัดแย้งต่อกับองคชายลีซานในสมัยเป็นองค์รัชทายาทต่อจากพระบิดา เมื่อพระเจ้าจองโจต้องการต้องการถวายพรเเกรียติของพระราชบิดาก็เกิดปัญหาแต่ จองยัคยอง ยังคงสนับสนุนการแสดงความกตัญญูของพระองค์ต่อพระบิดา พระเจ้าจองโจวางพระทัยในจองยัคยองมาก มักจะส่งเขาไปที่ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบการทุจริต และคอยปกป้องเขาจากพวกอนุรักษ์นิยมโดยการให้ย้ายออกนอกฮันยางไปทำที่ต่าง ๆ ป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น
ความสามารถและการเป็นคนโปรดของพระเจ้าจองโจของเขาทำให้เขาถูกขจับตามองจากฝ่ายโนรนโดยเฉพาะการเกี่ยวพันกับนิกายโรมันคาทอลิค แต่จองยัคยองยังปฎิเสธความเกี่ยวข้อง อาจจะเป็นเพราะพี่ชายคนโตของเขาเป็นหัวหน้าของชุมชนนิกายโรมันคาทอลิคทำให้เขาเหมือนติดร่างแหไปด้วยเมื่อพระเจ้าจองโตสวรรคตอย่างกระทันหันมันส่งผลต่อ จองยัคยองเป็นอย่างมาก เขาถูกเนรเทศ และไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าซุนโจ เกิดการพลัดใบในราชสำนักขุนนางฝ่ายโนรนกลับมามีอำนาจท่ามกลางการสำเร็จราชการของอัยกาคิม เนืองจากพระเจ้าซุนโจครองราชย์เมื่อพระชรรษาน้อย ในปี  พ.ศ.2343
ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าจองโจ พระอัยกาคิมเปิดตัวด้วยการกวาดล้างฝ่ายโรมันคาทอลิค พี่ชายของจองยัคยอง นามจองยัคจอง ป็นคนแรกที่ถูกจับกุม และ ถุกประหารชีวิตพร้อง ลีซองฮัน ในฤดูใบไม้ผลิของปี พ.ศ.2344 และบุตรชายของจองยัคจองก็เสียชีวิตหนึ่งเดือนหลังจากการตายของบิดา เนื่องจากเขาเป็นน้องชายของจองยัคจองทำให้เขาถูกส่งตัวเป็นเฉลยอยู่หลายเดือนที่ป้อมปราการจังกิถูกสอบสวนถูกทรมาน และ ต่อมาเขาใช้เวลาที่ยาวนานในกังจินถึง 18 ปี ในปี พ.ศ.2344 จองยัคยอง เดินทางมาที่คังจิน จอนลาใต้ ชายผู้พลักถิ่นมาที่นี้ด้วยความเงียบ เงินเพียงเล็กน้อย ไม่มีเพื่อน เขาได้ค้นพบสถานที่ซ่อนตัวหลังโรงเตี๋ยม เขาอาศัยอยู่ที่นั้นถึง 4 ปี และ จองยัคยองเรียกห้องนั้นว่า  ซาอียแจ Sauijae 사의재  หมายถึงบ้านแห่งความซื่อตรงความคิด , ภาพ ลักษณ์ , คำ และ พฤติกรรม เมื่ออยู่ที่นี้เขาได้เขียนงานของเขา Gyungseyopyo, Aejulyong ชื่อหนังสือ
ซาอียแจ Sauijae 사의재
ในปี พ.ศ.2348 เกิดการเปลี่ยนแปลงภายหลังการสวรรคตของพระอัยยิกาคิม พระเจ้าซุนโจทรงยุติความรุนแรงต่อชาวคาทอลิค คน 300 คนถูกฆ่าตายจำนวนมากถูกเนรเทศกระจัดกระจาย จองยัคยองได้รับอิสระในการที่เขาจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ในพื้นที่ของคังจิน ในปีนั้นเขาจึงเดินทางไปในหุบเขาอันห่างได้ ยังวัด แบครยอนซา 백련사 สถานที่ที่เขาได้พบกับ ฮเยจัง พระผู้ดูแลวิหารซึ่งอายุอ่อนกว่าเขาสิบปีได้ พวกเขาพูดคุยกันและกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาอันรวดเร็ว 
วัด แบครยอนซา 백련사

ในปีเดียว จองยัคยองย้ายไปพักบ้านพักที่เป็นญาติห่างๆ ของมารดาบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นเมืองคังจิน บ้านเรียบ ๆ หลังคามุงจากเขาใช้เวลาที่ยาวนานหลายสิบปีในสถานที่พักแห่งนี้  นี้คือสถานที่เกันดีในเวลานี้ ดาซันชองดัง ที่กลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่หลายคนต้องไปเยื่อนบ้านของนักปราชญ์ดาซัน ที่ถุกเนรเทศ จองยัคยองได้กลับเข้ามาสู่แวดวงทางการศึกษาในการสอนหนังสือให้กับนักเรียนที่พักอาศัยอยู่บริเวณนั้น เขเขาสร้างชุมชนที่มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น 

ดาซัน โชดัง Dasan Chodang

ในช่วงเวลาแห่งการเนรเทศนั้น จองยัคยอง ได้สร้างงานเขียนมากกว่า 500 ชุด งานเขียนจำนวนมากกว่า  14,000 หน้า งานของเขาเขียนขึ้นเพื่อกำหนดรากฐานของการปฎิรูปแผนงานอย่างชัดเจนเพื่อการปกครองประเทศอย่างถูกต้องตามหลักของขงจื้อ งานเขียนของเขามีหลายๆ ด้านทั้งการเมือง จริยธรรม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ การแพทย์ และ ดนตรี งานของเขาได้มีการถูกตีพิมพ์
นอกจากงานเขียนแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ความสามารถด้าน ชา ของจองยัคยอง เมื่องเขาถูกเนรเทศอยู่ในคังจิน  ดังที่กล่าวว่า จองยัคยอง ได้รู้จักและสนิทสนมกับ ฮเยจัง การที่เขาได้ดำรงชีวิตในห้องเล็ก ๆ ด้วยเงินเพียงน้อยนิดทำให้สุขภาพของเขาย่ำแย่ลงอยากมากเนืองด้วยคุณภาพโภชนาการอาหารต่ำ เขาประสบปัญหาทางด้านทางเดินอาหารเรื้อรังความรู้เรื่องชาของเขาอาจจะเกิดขึ้นเพื่อรักษาอาการป่วยของเขาที่เกิดสภาวะของทางเดินอาหารของเขาก็เป็นได้  หลักฐานทางด้านความรู้ทางด้านชาของจองยัคยอง ปรากฏจากการที่เขาได้มอบกฏบทกวีที่ได้ให้กับ ฮเยจัง บทกวีนี้แสดงให้เห็นข้อความอันแสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านยาของชาของเขา มันบกบอกให้รู้ว่าเขารู้วิธีในการเตรียมใบสำหรับดื่มชาอย่างไร บ้างอ้างว่าเขาได้ความรู้ทางด้านชาจากฮเยจัง ความรู้ทางด้านชาของจองยัคยองถ่ายทอดไปยังพระรูปอื่นด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจคือความรู้เรื่องชาของเขาปรากฏหลักฐานผ่านงานกวีของเขาเช่นกัน
ความเป็นนักคิดของจองยัคยองทำให้ปรากฏออกมาผ่านงานเขียน เขาเป็นนักวิชาการหัวก้าวหน้าชอบเรียนรู้และศึกษาในสิ่งใหม่ ๆ งานรวบรวมขงจื้อแนวใหม่ของโชซอนตอนกลาง ความสามารถทางด้านงานเขียนของเขาเป็นที่ประจักษ์มายังเวลานี้ คืองานเขียนเรื่อง มุคมินซิมซอ 목민심서 ชื่อ จิตใจแห่งการปกครอง ความลึกซึ่งทางด้านความคิดและงานเขียนของเขาลึกซึ้งในประเด็นของความยากจน และ ตั้งคำถามเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืงง เขาเชื่อว่าราชสำนัก และ ขุนนาง ควรจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจน จองยัคยองเน้นความสำคัญของผู้บริหารประชาชนด้วยความซื่อสัตย์และ มีคุณธรรม เนื่องจากพวกเขาล้วนมีหน้าที่ในการดูแล และ ช่วยเหลือประชาชน  ดังที่ทราบว่าเขาคือ ชินฮักที่ จองยัคยองได้เป็นหนึ่งในกลุ่มของพวกเขา มี านปฎิรูปที่ดินคือประเด็นที่สำคัญ  เขาเสนอระบบการปฎิรูปที่ดินของหมู่บ้าน แทนที่เจ้าของที่ดินเป็นของส่วนกลาง เและ ยังเสนอให้เป็นระบบที่ดินของหมู่บ้าน โดยหมู่บ้านถือครองที่ดินรวมกัน และ ทำไร่ไถนาที่ดินโดยรวมในขณะที่ผลผลิตของที่ดินจะถูกนำมาแบ่งตามจำนวนแรงงานที่มีส่วนรวม
นี้คือ เรื่องราวของท่าน องยัคยอง หรือ นามปากกา ดาซัน  อาจจะยาวไปหน่อยนะค่ะแต่คนที่ไปเกาหลี และ สนใจประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญเราก็สามารถตามรอยสิ่งที่ยังปรากฏหลักฐานในเรื่องราวของท่าน จองยัคยอง ที่เราจะเดินทางไป ล้วนอยู่ที่เมืองคังจิน นะค่ะ
ถ้าคุณต้องการมาตามรอย นักวิชาการหัวก้าวหน้า นักวิชาการคู่พระทัยพระเจ้าจองโจ หรือ องค์ชายลีซาน ก็มาที่นี้ได้นำค่ะ เมือง คังจิน
- ดาซัง โชดัง  (다산초당) บ้านที่ จองยัคยอง อยู่ในขณะที่เขาเนรเทศออกจากฮันยาง สถานที่เขาใช้เวลากว่าสิบปี สถานที่สร้่างงานเขียนมากกว่า 500 ชุด ที่มีความหลายหลายของงานเขียนในหลาย ๆ ด้าน ภายหลังจากการถูกเนรเทศกว่า 18 ปี เขาเรียนรู้เชิงฎิบัติแบบชินฮัค  บริเวณดาซัน โชดัง 

ศาลา ชอนอิลกัค cr.Shutterstock.com

ดาซัน โซดัง
ดาซัน โซดัง cr.Tripvisor
เมื่อเดินไปใกล้ก็จะพบกับศาลา ชอนอิลกัค อันมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่าวคังอิน  ลักษณะของ ดาซัน โชดัง เป็นลักษณะของบ้านฮันอกแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่มีต้นไม่ร่มรื่น ภายในจะมีเรื่องราวชีวะประวัติจองยัคยอง
- ดาซัน ยูมุลจอนซิควาน (다산유물전시관) พิพิทธภัณฑ์  ดาซัน อยู่ห่าง ดาซันโซดัง 800 เมตร เป็นที่จัดแสดงเรื่องราวตามลำดับเหตุของเขา , ต้นไม้ของครอบครัว, เสื้อคลุมของนักวิชาการ , ความสำเร็จและของที่ระลึก อันทำให้เราเข้าใจชีวิตของเขามากยิ่งขึ้น
- วัดแบครยอนซา  วัดที่ จองยัคยอง เคยได้เดินทางไปจนพบกับ ฮเยจัง ในคังจิน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี
- ซาอึยแจ (사의재)  สถานที่ที่ จองยัคยอง ใช้ชีวิตอยู่ถึง 4 ปี ในห้องเล็ก ๆ ด้วยเงินไม่มาก สถานที่แห่งนี้เขาได้สร้างงานเขียน  คือ
Gyungseyopyo, Aejulyong 

นอกจากบทกวีของจองยัคยอง หลักฐานที่เคยมีปรากฏในการแสดงที่พิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี ที่ได้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติฉลองครบรอบ 250 ปี ผ่านนามปากกา ดาซัน มีการแสดงหลักฐานืั้งภาพเขียรเกี่ยวกับทัศนียภาพอันงดงาม ปรากฏจดหมายแสดงความห่วงใยเรื่องสุขภาพของพี่จองยัคยอง คือ จองยัคจอน จดหมายของจองยัคยองต่อพระสงฆ์ และ ลูกศิษย์ของเขา 
จองยัคยอง ถือได้ว่า มีพรสวรรค์ในการเป็นนักประดิษฐ์ และ นักวิชาการหัวสมัยใหม่ เขามีความคิดแบบนักวิทยาศาสตร์ รักในการจดบันทึกสิ่งต่างๆที่เขาได้พบเห็น เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการจดบันทีกในทุก ๆ อย่างที่เขานึกขึ้นมาได้ เพราะนิสัยของการจดบันทึกทำให้เขามีงานเขียนมากมายกว่า 500 ชุด
เรื่องราวของท่านจองยัคยอง ปรากฏใน ละครเกาหลีหลายเรื่อง เช่น Detective Jung Yak Yong , ลีซาน, หรือ ซอนคยุนกวาน บัณฑิตหน้าใสหัวใจว้าวุ่น ลองหาซีรีย์ดูก็ได้นะค่ะ จะได้อิน กับ จองยัคยอง
การเดินทาง จาก Seoul Central Bus Terminal  ไป คังจิน ใช้เวลา สี่ชั่วโมง แล้วเราก็สามารถที่จะต่อรถไปยังสถานที่ต่าง ๆ ต่ามที่แจ้งนะค่ะ